วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

"พระวิริยากรโกศล พ่อทองเบิ้ม""


หลวงพ่อทองเบิ้ม วัดวังยาว

ประวัติหลวงพ่อทองเบิ้ม นามเดิม ทองเบิ้ม นามสกุล ลิบลับ เกิดวันอาทิตย์ ที่ ๔ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๔ ตรงกับวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีกุน ชาติภูมิอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นามบิดา ม่องลั่น ลิบลับ นามมารดา นางพิม ลิบลับ ได้อุปสมบทเมื่อวันอังคาร ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑ ปีวอก ตรงกับวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๔๗๕ ณ วัดวังยาว ตำบลกุยบุรี อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีพระสุเมธีวรคุณ (เปี่ยม จนฺทโชโต) อดีตเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วัดเกาะหลัก ต.เกาะหลัก อ.เมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นพระอุปัชฌาย์
ในปี พ.ศ. ๒๔๘๖ ท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรม ที่วัดวังยาวสอบได้นักธรรมชั้นตรี และในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ สำเร็จการอบรมโรงเรียนพระสังฆาธิการส่วนกลาง รุ่นที่ ๑
ปัจจุบัน ท่านได้มรณภาพ เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๒
งานปกครอง
พ.ศ. ๒๔๗๙ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส วัดวังยาว และผู้รักษาการแทนเจ้าคณะตำบลกุยบุรี
พ.ศ. ๒๔๘๐ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดวังยาว และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลกุยบุรี
พ.ศ. ๒๔๘๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการสงฆ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตำแหน่งสาธารณูปการ
พ.ศ. ๒๔๙๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระกรรมวาจาจารย์
พ.ศ. ๒๔๙๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๐๖ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลกุยบุรี อีกครั้งหนึ่ง
พ.ศ. ๒๕๐๘ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอกุยบุรี
พ.ศ. ๒๕๐๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอกุยบุรี
งานศึกษา
พ.ศ. ๒๔๗๙ เป็นเจ้าสำนักเรียนปริยัติธรรมวัดวังยาว
พ.ศ. ๒๔๘๒ เป็นประธานสนามสอบปริยัติธรรมสนามหลวงในตำบลกุยบุรี สอบที่วัดวังยาว
พ.ศ. ๒๔๙๘ เป็นผู้อุปการะโรงเรียนบ้านปากเหมือง วิริยสงเคราะห์ และโรงเรียนวัดวังยาว (เดิมโรงเรียนบ้านวังยาว และโรงเรียนกุยบุรี รวมกัน)
พ.ศ. ๒๔๙๘ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวจประโยชคธรรมสนามหลวง

พ.ศ. ๒๔๙๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ที่พระครูวิริยาธิการี พระครูสัญญบัตร กรรมการสงฆ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตำแหน่งสาธารณูปการ
พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะยก ที่ พระวิริยากรโกศล

ท่านได้มรณภาพลง ในวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๒ นับตั้งแต่ท่านมรณภาพลงนั้น เจ้าอาวาส
รูปปัจจุบัน และศิษยานุศิษย์ ได้บำเพ็ญกุศลให้ท่าน ในวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ของทุกๆ ปี ในปีนี้ พ.ศ.
๒๕๕๕ เป็นปีที่ ๑๓ แล้ว โดยที่ชาวบ้านทั่วไปกล่าวขานและยกให้ท่านศักสิทธิ์เรื่อง "ปากพระร่วง"
วาจาท่านศักสิทธิ์ยิ่งนัก ที่สำคัญสรีระของท่านยังไม่เน่าเปื่อยอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น