วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
""""""หลวงพ่อจ้วน จนทศิริ"""""
ประวัติพระครูพิพิธพัชรศาสตร์ (จ้วน จนทศิริ)ศิษย์เอกหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง
นามเดิม นายจ้วน กล่อมใจ เกิดวันอังคาร ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2463 บิดาชื่อนายจุ้ย กล่อมใจ
มารดาชื่อนางเหลื่อน กล่อมใจ นามฉายา “ จนทสิริ” หมู่ 1 ตำบลท่าคอย อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี มรณภาพ วันอังคาร ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2525 เวลา 60.20 น. ณ โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล
ปฐมวัยและการศึกษา
เป็นคนมีนิสัยร่าเริงแจ่มใส ชอบร้องเพลง มีความโอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น
พ.ศ. 2476 เริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนวัดท่าคอย พร้อมทั้งช่วยเหลือบิดา-มารดาประกอบอาชีพคือ ทำนา ทำไร่ ชอบสัตว์มากที่สุด คือ วัว มีวัวคู่ใจชื่อ จี่ เคยใช้ไม้ตีวัว ไม้หักกระเด็นเข้าตาซ้ายจึงทำให้ตาซ้ายพิการ
อุปสมบท
เมื่อถึงเกณฑ์อุปสมบท ก็เข้าอุปสมบทตามประเพณี ณ วัดท่าคอย ตำบลท่าคอย อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันจันทร์ ที่ 3 มีนาคม 2484 พระอธิการชัน วัดอรัญญาราม ตำบลมาบปลาเค้า อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการผิว วัดตาลกง ตำบลมาบปลาเค้า อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระกรรมวาจารย์ และพระอธิการรวม วัดท่าคอย ตำบลท่าคอย อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระอนุสาวจารย์
ปาฏิหาริย์ “หลวงพ่อจ้วน” เข้าฝันให้ขุดเรือเก่าอายุกว่า ๓๐ปี
อดีตพระเกจิอาจารย์ดังเมืองเพชร หลวงพ่อจ้วน วัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง เขาฝันชาวบุรีรัมย์ ให้ไปขุดเรือเก่า ริมแม่น้ำเพชรบุรีซึ่งการขุดนั้นก็พบเรือตามที่เข้าฝัน ทั้งนี้ได้มีชาวบ้านและนักแสวงโชคเดินทางไปร่วมชมกันเป็นจำนวนมาก
เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น.วันที่๘ มีนาคม ๒๕๕๑ ซึ่งเป็นเรือของพระครูพิพิธพัชรศาสน์ หรือหลวงพ่อจ้วน อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และอดีตเจ้าคณะอำเภอท่ายาง ที่ได้มรณภาพไปเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๒๕โดยเรือที่ขุดพบนั้นอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ลักษณะเป็นเรือสร้างด้วยไม้ตะเคียน มีความยาวประมาณ ๙ เมตร เป็นเรือประมงแบบ “เรืออีป๊าบ”ที่ชาวประมงใช้ออกทะเลทั่วไป ซึ่งฝั่งอยู่ในดินลึกประมาณเกือบ ๒เมตร
สำหรับการขุดพบเรือในครั้งนี้นางสำเภา ชอบสุข อายุ ๓๒ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๑๙ ม.๒ ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ผู้ว่าจ้างรถแบล็กโคเปิดเผยว่า หลวงพ่อจ้วนได้มาเข้าฝันพี่ชาย ซึ่งบวชอยู่ที่วัดพระพุทธบาทเขาลูกช้างว่า ให้ช่วยไปขุดเรือของหลวงพ่อที่ลูกศิษย์พายไปจมอยู่ที่บริเวณใต้สะพานเขาลูกช้างมาเก็บไว้ที่วัดด้วย พระพี่ชายจึงนำความฝันมาเล่าให้ตนฟัง
นางสำเภา เล่าต่อว่าครั้งแรกมีความคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้แต่ต่อมาตนได้ฝันด้วยตนเองว่าหลวงให้ช่วยไปขุดนำเรือลำดังกล่าวขึ้นมาพร้อมกับนำความฝันไปตีเป็นเลขเด็ดและซื้อล็อตเตอรี่และถูกมาแล้วหลายครั้ง ด้วยความศรัทธาตนจึงได้เดินทางมาที่ จ.เพชรบุรี และไปแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ อบต.ท่าไม้รวก ขออนุญาตจัดจ้างรถแม็คโคร มาทำการขุดบริเวณดังกล่าวซึ่งใช้เวลาเกือบ ๒ วันจนพบเรือลำนี้
ด้านชาวบ้านที่มายืนมุงดูการขุดเรือต่างพากันไปเก็บดินที่ติดอยู่ในเรือไว้บูชา ตามความเชื่อเพื่อความเป็นสิริมงคลซึ่งก็มีประชาชนต่างทยอยเดินทางกันมาอย่างต่อเนื่อง และนำดินที่ติดอยู่กับเรือไปเก็บไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลและนำพวงมาลัยดอกไม้ มาคล้องที่หัวเรือกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีประชาชนส่วนหนึ่ง ใช้มือลูบบริเวณลำเรือเพื่อหาเลขเด็ด ตามความเชื่อของนักแสวงโชคด้วย
จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่าเรือลำดังกล่าวจมหายลงไปในน้ำเมื่อประมาณ ๓๐ ปีก่อน ครั้งที่หลวงพ่อจ้วนใช้เป็นเรือขนไม้มาสร้างวัดในสมัยนั้น สำหรับประวัติหลวงพ่อจ้วนอุปสมบทตั้งแต่ปี ๒๔๘๔ ที่วัดท่าคอย อ.ท่ายางเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง ต่อมาได้ออกธุดงค์มาพักอยู่ที่เขาลูกช้างและสร้างศาสนสถานของวัดขึ้นจนเป็นวัดที่สมบูรณ์
อาพาธ-มรณภาพ
พ.ศ. 2513-2514 ท่านท่านเริ่มมีอาการป่วย เช่น ไข้มาลาเรีย เป็นเบาหวาน รักษาด้วยการต้มยาสมุนไพร
พ.ศ. 2517 เริ่มป่วยเป็นโรคไต และหัวใจ วัณโรค เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพชรบุรี
พ.ศ. 2518-2521 หายจากวัณโรค เริ่มป่วยเป็นโรคไตอย่างรุนแรง พร้อมทั้งโรคหัวใจเรื่อยมา โดยมีอาการเหนื่อยหอบ หายใจไม่ออก นำหนักตัวลดลง เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพชรบุรี จนอาการดีขึ้น
พ.ศ. 2522 หลังจากงานพระราชเพลิงศพพรครูทัศนียคุณ อดีตเจ้าคณะอำเภอท่ายางแล้ว ท่านมีอาการทรุดหนักลงอีก โดยมีอาการแทรกซ้อน โรคตับโต เส้นเลือดหัวใจตีบ โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเปาโล ณ กรุงเทพ ฯ คุณวิรุณ เตชะไพบูลย์ ถวายค่ารักษาทั้งสิ้น
พ.ศ. 2523-2524 ท่านมีอาการดีขึ้น สามารถปฏิบัติภาระกิจได้ตามปกติ แต่ต้องเข้าตรวจร่างกายตามแพทย์นัดหมาย
พ.ศ. 2525
-ในช่วงต้นปี ท่านมีอาการปกติและอาพาธบ้าง สลับกันไป เนื่องจากมีงานพัฒนาและกิจนิมนต์มาก
-ราวกลางเดือนกรกฎาคม ท่านมีอาการดีขึ้นมาก จนดูเป็นปกติ ได้ไปประชุมพระสังฆาธิการ อบรมพระภิกษุ-สามเณร
-เดือนสิงหา ท่านมีอาการทรุดหนัก โรคไตและโรคหัวใจกำเริบ มีอาการท้องขึ้น หายใจไม่สะดวก มีอาการไข้หวัด
-วันที่ 4 กันยายน ท่านเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่งที่โรงพยาบาลเปาโล ได้รับการรักษามีอาการดีขึ้นเล็กน้อย
-วันที่ 6 กันยายน ตอนเช้า ฉันน้ำเต้าหู้เกิดสำลัก หายใจไม่ออก มีอาการช็อกจนต้องนำเข้าห้องฉุก-เฉิน และอยู่ในห้อแงฉุกเฉินเป็นเวลาได้ 8 วัน จึงมรณภาพเมื่อวันอังคาร ที่ 14 กันยายน 2525 เวลา 6.20 น. คณะแพทย์ลงความเห็นว่าเป็นโรคหัวใจวาย นำศพกลับวัดเขาลูกช้างถึงเวลา 12.50 น.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น